“ทำไมการสื่อสารวิทยาศาสตร์จึงจำเป็น”
ในยุคที่การเรียนรู้ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงในห้องเรียน ทักษะการสื่อสารและการเล่าเรื่องที่ดีถือเป็นปัจจัยสำคัญในการถ่ายทอดความรู้และเสริมสร้างความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง โดยเฉพาะในวิชาวิทยาศาสตร์อย่างชีววิทยา ซึ่งมีเนื้อหาซับซ้อนและเต็มไปด้วยกระบวนการที่เข้าใจยาก แต่ทว่าในความเป็นจริง เด็กไทยจำนวนมากกลับขาดทักษะในการสื่อสารสาระสำคัญของบทเรียนอย่างมีประสิทธิภาพ ขาดความมั่นใจในการเล่าเรื่องทางวิชาการ และที่น่ากังวลยิ่งกว่านั้นคือ ขาดแรงจูงใจในการเรียนรู้ชีววิทยา
หนึ่งในหัวข้อที่ท้าทายความเข้าใจของผู้เรียน คือ “กลไกการสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช” ซึ่งเป็นกระบวนการพื้นฐานที่มีบทบาทสำคัญต่อชีวิตบนโลก แม้จะไม่ใช่เนื้อหาหลักในหลักสูตรที่นักเรียนทุกคนต้องเรียน แต่เป็นหนึ่งในประเด็นวิทยาศาสตร์ที่ใกล้ตัวนักเรียนที่สุดประเด็นหนึ่ง
จากการสังเกตของผู้เขียน การสอนในรูปแบบเดิมที่เน้นการท่องจำ ไม่สามารถปลุกความสนใจหรือกระตุ้นการเรียนรู้ได้อย่างแท้จริง ในบทความนี้จึงได้นำเสนอตัวอย่างกิจกรรมการเรียนรู้ใช้แบบจำลองเป็นฐานไว้อีกด้วย
หัวใจหลักของการสื่อสารวิทยาศาสตร์ให้สำเร็จ
- เข้าใจผู้รับสาร เช่น ระดับความรู้ขอผู้รับสารอยู่ระดับใด หรือมีความสนใจเกี่ยวกับอะไร
- แปลงความซับซ้อนให้เข้าใจง่าย เช่น การลดทอนรายละเอียดให้กระชับโดยไม่บิดเบือนความจริง หรือหลักการทางวิทยาศาสตร์
- สื่อสารอย่างมีวัตถุประสงค์ เช่น ต้องรู้ว่าการสื่อสารครั้งนั้นๆ ทำเพื่อให้ความรู้ ความเข้าใจ หรือกระตุ้นให้เกิดการตั้งคำถาม
- ใช้สื่อที่หลากหลายและเหมาะสม เช่น เสียงพูด ข้อความ ภาพวาด ภาพเคลื่อนไหว
- สร้างปฏิสัมพันธ์และสะท้อนกลับ เช่น เปิดโอกาสให้ผู้รับสารตั้งคำถาม หรือ แสดงความคิดเห็น
“Keynote เป็นเครื่องมือสร้างสื่อนำเสนอที่เรียบง่ายแต่ทรงพลัง เป็นสื่อกลางในการส่งเสริมการเรียนรู้เชิงรุก เพิ่มแรงจูงใจ และพัฒนาทักษะการสื่อสารของนักเรียนผ่านกระบวนการสร้างเรื่องเล่าเชิงวิทยาศาสตร์ด้วยตนเอง ซึ่งจะไม่เพียงช่วยให้เข้าใจเนื้อหาอย่างลึกซึ้ง แต่ยังปลูกฝังทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 ได้อย่างลงตัว”
ตัวอย่างบทเรียนชีววิทยา ปัจจัยที่มีผลต่อการสังเคราะห์ด้วยแสง
บทเรียนนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเเสริมให้ผู้เรียนได้ฝึกฝนสืบค้นข้อมูลอย่างลึกซึ้ง ฝึกสร้างสรรค์การสื่อสาร และสร้างความมั่นใจทางวิชาการให้กับผู้เรียน
จุดประสงค์การเรียนรู้
- อธิบายอิธิพลของปัจจัยที่มีผลต่อการสังเคราะห์ด้วยแสง
- ออกแบบวิธีการปลูกพืชที่ส่งเสริมการเจริญเติบโต
- ตระหนักถึงความสำคัญของปัจจัยที่มีผลต่อการสังเคราะห์ด้วยแสงของพืชในการนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน
การออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning Design)
ครูกำหนดภาระกิจให้กับนักเรียน โดยให้เงื่อนว่า "ให้นักเรียนเลือกพืชที่อยากปลูกมา 1 ชนิด จากนั้นให้ออกแบบโรงเรือนที่สามารถส่งเสริมการเจริญเติบโตของพืชชนิดนั้นได้ดี โดยชิ้นงานที่ส่งครูเป็นคลิปสั้นความยาวไม่เกิน 30 วินาที แบบ Stop Motion มีเสียงประกอบ"
จากนั้นนักเรียนสร้าง Stop Motion Animation โดยใช้ Keynote โดยวัตถุในเฟรมนั้นอาจสร้างมาจาก ดินน้ำมัน กระดาษที่ตัดเป็นรูปร่างต่างๆ หรือภาพที่วาดบน Keynote จากนั้นอดเสียงประกอบภาพอธิบายแนวคิดที่ใช้ในการออกแบบ
"นักเรียนทุกคนไม่ได้เกิดมาเป็นนักเล่าเรื่อง"
สิ่งที่ครูต้องแนะนำให้นักเรียนก่อนเริ่มลงมือทำคลิปสั้นนั้น คือ ขั้นตอนการสร้างเส้นเรื่อง และเทคนิคการทำให้วิดีโอกระชับ
การสร้างเส้นเรื่องเพื่อนำเสนอผลงานการออกแบบวิธีการปลูกพืช ควรแบ่งออกเป็น 3 ตอน
- ตอนเปิด เล่าเรื่องเกี่ยวกับการวิเคราะห์ปัญหาว่าพืชอะไรที่เลือก ผลกระทบของการเพาะปลูกกรณีที่ไม่สามารถควบคุมปัจจัยแวดล้อมของพืชนั้นได้ และทำไมเลือกพืชชนิดนี้
- ตอนกลาง เล่าเรื่องเกี่ยววิธีการออกแบบ และแบบร่างของวิธีการเพาะปลูก
- ตอนปิด เล่าเรื่องเกี่ยวกับเหตุผลของการออกแบบเพื่อแก้ปัญหาที่ตั้งไว้
ครูสามารถติดตามพัฒนาการของการเรียนรู้ได้อย่างใกล้ชิดผ่านการตรวจสอบ Storyboard และชิ้นงานเป็นระยะ หรือใช้การสังเกต ตลอดจนการสัมพาษณ์
"ผลลัพธ์ทางการเรียนรู้ คือ ผู้เรียนได้เรียนรู้อย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับปัจจัยที่มีผลต่อการสังเคราะห์ด้วยแสง จนนำไปสู่การออกแบบแบบร่างของการเพาะปลูกที่เฉพาะเจาะจงต่อพืชนั้นๆ ได้ และสามารถสื่อสารอย่างวิชาการได้อย่าสนุกสนาน"
Attach up to 5 files which will be available for other members to download.